top of page
ค้นหา

ผู้หญิงและเด็กรุ่นใหม่คือกลุ่มเสี่ยงที่สุด 💥 ข่าวอังกฤษรายงาน AI อาจทำให้คนตกงานถึง 8 ล้านคน

ติน่ารู้ว่าเรื่อง AI

ยังเป็นสิ่งใหม่สำหรับหลายคน

แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าการ “ไม่รู้”

คือการ “เข้าใจผิด”


เพราะวันนี้... พ่อแม่หลายคน

ยังคิดว่า AI เป็นแค่กระแส

หรือเครื่องมือสำหรับคนทำงาน

ด้านเทคโนโลยีเท่านั้น


ในขณะที่อีกฟากหนึ่งของโลก

รัฐบาลอังกฤษเพิ่งได้รับคำเตือน

จากนักเศรษฐศาสตร์ว่า

“AI อาจทำให้คนตกงานถึง 8 ล้านคน”


และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ

  • ผู้หญิง

  • เด็กรุ่นใหม่

  • พนักงานทั่วไป

โดยเฉพาะงานที่เริ่มต้นง่าย

และใช้คนเยอะ


เพราะอะไร?

เพราะ AI ถูกใช้แทนที่คนได้เร็วมาก


มันเข้ามาแทนที่งานที่…

✅ ไม่ต้องใช้ความคิดลึกซึ้ง

✅ มีแพทเทิร์นชัดเจน

✅ งานที่ทำซ้ำ วนไปวนมา

และถ้าคุณคิดว่าสิ่งนี้

ยังห่างไกลจากตัวเอง


ติน่าอยากให้คุณรู้ไว้ว่า…

“ผู้หญิง” คือกลุ่มที่เสี่ยงที่สุด

ที่จะถูกแทนที่ด้วย AI


จากรายงานของ IPPR ในอังกฤษ

พบว่าพนักงานทั่วไป

พนักงานบริการลูกค้า

หรืองานประจำที่ใช้กระบวนการซ้ำ ๆ

ส่วนใหญ่เป็นงานที่ “ผู้หญิง” ทำ


แปลว่า ถ้าไม่รีบปรับตัว

ผู้หญิงหลายคนจะตกงานก่อนใคร


ไม่ใช่เพราะเราไม่เก่ง

แต่เพราะเราถูกผลัก

ให้ทำงานบางแบบซ้ำ ๆ มาตลอด


พอ AI เข้ามาแทนงานพวกนี้ได้

ตำแหน่งงานที่เคยมั่นคง

ก็หายไปในชั่วข้ามคืน


นี่ไม่ใช่แค่เรื่อง “ความมั่นคงของแม่”

แต่มันคือ “อนาคตของลูก”

ที่อาจกำลังเดินซ้ำรอยเดิม


ถ้าเรายังไม่เริ่มปูทักษะใหม่ให้เขา

ถ้าเรายังปล่อยให้เขา

โตมาแค่ใช้มือถือเก่ง

โดยไม่รู้จักวิธี “สร้าง” อะไรด้วยมันเลย


อีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เขาอาจต้องแข่งกับเครื่องจักร

ที่ทำงานได้เร็วกว่า ถูกกว่า

และไม่มีวันหยุด


และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น คือ

ในขณะที่อังกฤษเริ่มวางนโยบาย

เพราะเห็นว่าทุกอย่างเปลี่ยนเร็ว

บ้านเรา... ยังแทบไม่มีใครพูดถึง


บางคนยังคิดว่า

“เดี๋ยวลูกก็เรียนรู้เองได้”

“เอาไว้โตค่อยเรียน”

“ลูกเราเล่นมือถือเก่งอยู่แล้ว ไม่น่าห่วง”


แต่ทั้งหมดนี้... คือความเข้าใจผิด


เด็กที่ “เล่นเก่ง”

ไม่ได้แปลว่า “สร้างเป็น”


เด็กที่ “พิมพ์คำสั่งได้”

ไม่ได้แปลว่า “คิดเป็นระบบ”


เด็กที่ “คล่องแอป”

ไม่ได้แปลว่า “มีทักษะเอาตัวรอดในยุค AI”


เราไม่ได้อยู่ในยุคที่

“รู้มากกว่า” แล้วได้เปรียบ


แต่เรากำลังอยู่ในยุคที่

ใคร “เริ่มก่อน” ก็เรียนรู้ได้ลึกกว่า


ใคร “เข้าใจก่อน”

ก็เอาไปใช้ได้จริง


ใคร “กล้าลองก่อน”

ก็สร้างโอกาสใหม่ได้ไวกว่า


และติน่าอยากบอกว่า

ลูกของคุณไม่ต้องรอให้โต

ถึงจะเริ่มเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ได้


ตอนติน่าอยู่ป.6

ติน่าแค่อยากตกแต่ง

หน้าโปรไฟล์ Hi5 ของตัวเอง

(โซเชียลมีเดียยอดฮิตในยุคนั้น)


เลยเริ่มเรียนรู้ว่า

ต้องใช้โค้ด HTML

ในการปรับแต่งหน้าเว็บ


ใครจะไปคิดว่า

ความอยากสนุกแค่นั้น

จะกลายเป็น “ทักษะเทคโนโลยี”

ที่ปูพื้นฐานให้ติน่าคิดเป็นระบบ

และกลายมาเป็นคนที่ใช้เทคโนโลยี

สร้างธุรกิจออนไลน์

ที่สร้างยอดขาย 8 หลักทุกปี


มันไม่เคยรู้สึกเหมือนการบ้าน

เพราะมัน “สนุก”

และเด็กทุกคนเรียนรู้ได้

ถ้าเราให้เขาเริ่มต้นจาก “ความสนุก”


และโชคดีมาก ที่วันนี้

เด็กไม่ต้องเริ่มจากโค้ดยาก ๆ อีกแล้ว

AI ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก


สิ่งที่เราต้องทำคือ…

ให้เขาได้ “เริ่มต้น”


แม้แค่วันละนิด

เพราะความได้เปรียบที่สุด

ในโลกตอนนี้

ไม่ได้อยู่ที่ใครเก่งกว่า

แต่อยู่ที่ใคร “เริ่มก่อน”


หรือเราจะยอมให้ลูกของเรา

ต้องเริ่มต้นช้ากว่าคนอื่น?


อย่าปล่อยให้ลูกของคุณ

กลายเป็นแค่ผู้ใช้เครื่องมือ

ที่ตัวเองไม่เข้าใจ


อย่ารอให้ลูกต้องไล่ตาม

โลกยุคใหม่

เหมือนที่เราเคยทำ


อนาคตลูกคุณ

ไม่ควรขึ้นอยู่กับระบบการศึกษา

ที่ไม่ทันโลก


ถึงเวลาแล้วที่พ่อแม่

ต้องเปลี่ยนความเข้าใจ

ก่อนที่โลกจะเปลี่ยนลูกของเรา

ไปตลอดกาล


ด้วยรัก


ติน่าเอง

 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
ทำไม “ความเก่ง” ถึงทำให้คุณสำเร็จช้าลง แบบไม่รู้ตัว

ติน่าเป็นที่ปรึกษาให้กับ เจ้าของกิจการหลายคนมาก บางคนรายได้ 8 หลัก 9 หลัก แล้วสิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกัน คืออะไรรู้มั้ย? คำตอบคือ … คนเหล่านี้ เก่งโคตร ๆ ในสิ่งที่ตัวเองทำ เขารู้หมด รู้ลึก รู้ทุกขั้นตอนใ

 
 
เริ่มกลัว! นักพัฒนา AI จาก OpenAI และ Google DeepMind ทนไม่ไหว ออกมาเตือนความเสี่ยง AI ถึงขั้นอาจทำ ‘มนุษย์สูญพันธุ์’

สำนักข่าวเทคโนโลยีหลายแห่ง รายงานว่า กลุ่มพนักงานปัจจุบัน และอดีตพนักงานของ Google DeepMind บริษัทพัฒนา AI ในเครือ Alphabet รวมถึงพนักงานจาก OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ซึ่งมี Microsoft หนุนหลัง ได้ร่วมกั

 
 
bottom of page