ถูกสงสาร ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่ถูกอิจฉา คุณต้องเก่งหน่อยนะ 😏
- Tina Academy

- 20 ก.ย.
- ยาว 1 นาที
ความอิจฉา
แม้จะมาแบบห่าง ๆ
ก็เป็นตัวทำลาย
เจ้าของกิจการเก่ง ๆ ได้ไม่น้อย
มันทำให้หลายคนหลงทาง หลุดโฟกัส
และทำในสิ่งที่ไร้ประโยชน์
จนไม่เกิดผลดีอะไรกับตัวเองเลย
เรื่องนี้ ทำให้ติน่านึกถึง
นิทานอุปมาสุดคลาสสิก
ของเอิร์ล ไนติงเกล
เรื่อง “ทุ่งหญ้าที่เขียวกว่า”
มีชาวนาคนหนึ่งชื่อโจ
ทุกเช้าเขาจะดื่มกาแฟร้อน ๆ
แล้วเดินขึ้นไปบนเนินสูงสุด
ในที่ดินของตัวเอง
เพื่อมองไปยังทุ่งหญ้าของบ็อบ
เพื่อนบ้านที่อยู่ไกลออกไป
ทุกครั้งที่มอง
โจก็ได้แต่ฉงนและหงุดหงิดใจ
ว่าทำไมทุ่งหญ้าของบ็อบ
ถึงดูเขียวขจีมากกว่าทุ่งของเขา
แต่ในเวลาเดียวกัน
บ็อบเองก็ตื่นเช้ามาทำสิ่งเดียวกัน
ดื่มกาแฟร้อน ๆ
แล้วเดินขึ้นเนินไปมองทุ่งหญ้าของโจ
ที่เขาคิดว่าเขียวกว่าของตัวเองเช่นกัน
วันหนึ่ง ทั้งคู่เจอกันที่ร้านเหล้า
ดื่มหนักเกินไปจนกลับบ้านผิด
โจเข้าบ้านบ็อบ และบ็อบเข้าบ้านโจ
เช้าวันถัดมา
ทั้งคู่มองออกไปยังทุ่งหญ้าของ “บ้านตัวเอง”
ด้วยความประหลาดใจว่า
ทำไมมันถึงเขียวกว่าทุ่งของเพื่อนบ้าน
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
กับเจ้าของกิจการหลายคน
พวกเขาเข้าใจธุรกิจของคนอื่น
แค่จากมุมมองไกล ๆ
แล้วก็เผลออิจฉา
คิดว่าของตัวเองด้อยกว่า
เหนื่อยกว่า หรือกำไรน้อยกว่า
ทั้งที่จริง ๆ
เราไม่เคยเห็นภาพทั้งหมดเลย
การตั้งคำถามกับสิ่งที่คนอื่นทำ
เป็นเรื่องสำคัญ
แต่การตกหลุมพรางอิจฉาว่า
“ทุ่งหญ้าของคนอื่นเขียวกว่า”
เป็นสิ่งที่อันตราย
เพราะความอิจฉา
จะดึงคุณออกจากความรู้สึกขอบคุณ
ซึ่งเป็นพลังที่ดึงดูดความมั่งคั่งเข้ามา
ติน่าเคยให้คำปรึกษาจข.กิจการคนหนึ่ง
ธุรกิจเขากำลังไปได้ดีมาก
ขายดีมากในออนไลน์
ทุกอย่างกำลังไปได้สวย
แต่เขากลับขับรถขึ้นทางด่วน
ด้วยความเร็วต่ำกว่ากำหนด!
ไม่ได้กระตือรือร้น
ไม่ได้ใช้โอกาสตรงหน้าให้สุด
ไม่กอบโกยทุกโอกาสที่เข้ามา
ทั้งที่เป็นจังหวะ “น้ำขึ้น” ที่ควรรีบตัก
ติน่าบอกเขาไว้แล้วว่า
โอกาสในวันนี้ คือเชื้อเพลิงสำคัญ
ที่จะพาเขาไปไกลกว่าที่เคยคิด
แต่ถ้าไม่คว้าไว้ ความสำเร็จนี้
อาจอยู่กับเขาได้ไม่ถึงปี
เกษตรกรทุกคนรู้ดีว่า
ต้องหว่านเมล็ดก่อน
ถึงจะเก็บเกี่ยวได้
แต่ในโลกธุรกิจ
หลายคนกลับอยาก “เก็บเกี่ยว”
โดยที่ยังไม่เคย “หว่าน” อะไรลงไปเลย
เหมือนคนที่อยากขายดีในออนไลน์
แต่ไม่อยากทำคอนเทนท์
ไม่อยากหาวิธีใหม่ ๆ (ที่ได้ผล)
ให้ตัวเองเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นเลย
ตอนที่ติน่ามีลูกน้องเกือบ 20 คน
ติน่าเจอเรื่องแบบนี้ตลอด
พนักงานบางคนมาขอขึ้นเงินเดือน
แต่พอถามว่า 6 เดือนที่ผ่านมา
คุณได้สร้างคุณค่าอะไรให้บริษัทบ้าง?
ได้ลงทุนพัฒนาทักษะของตัวเองยังไง?
เขาให้คำตอบติน่าไม่ได้เลย
มายด์เซ็ตที่ว่า
“ทำงานมานาน ก็ควรได้เงินเพิ่ม”
เป็นความคิดที่อันตรายมาก
เพราะเวลาที่ผ่านไป ไม่ได้การันตีว่า
คุณค่าของงานจะเพิ่มขึ้น
เหมือนกับถ้าคุณเป็นคนพิมพ์ดีดมา 10 ปี
แต่โลกเลิกใช้เครื่องพิมพ์ดีดไปแล้ว
งานนั้นก็ไม่มีคุณค่าอะไรอีกต่อไป
เช่นเดียวกันกับธุรกิจ
การที่คุณอยู่มานาน ไม่ได้แปลว่า
คุณให้คุณค่ากับลูกค้าได้มากขึ้น
สิ่งเดียวที่จะทำให้ลูกค้า
เลือกซื้อจากคุณก็คือ
คุณค่าที่เขาได้รับจริง ๆ
ธุรกิจที่ยั่งยืน
ไม่ได้เกิดจากการอยู่มานาน
แต่มาจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ถ้าคุณไม่ยกระดับตัวเอง
ให้ก้าวไปข้างหน้า
คุณก็เสี่ยงที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
หรือถูกแทนที่ด้วยคนที่พร้อมกว่าเสมอ
อย่าลืมใช้เวลาพัฒนาตัวเอง
และสร้างคุณค่าให้ลูกค้าอยู่ตลอดนะคะ
รัก
ติน่าเอง
