ความลับของการ “ล้มแล้วลุกเร็ว”

คุณทำยังไง เวลาพลาดเป้าหมาย?

สำหรับติน่า เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นบ่อยมาก

ทั้งเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่

เรื่องที่ผิดพลาดเอง

หรือแม้แต่เรื่องที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย

จากเด็กเกือบไม่ได้เรียนต่อ

→ สู่หนี้ก้อนโต

ตอนเด็ก ๆ ติน่าเคยเกือบไม่ได้เรียนต่อ ป.5

เพราะแม่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม

แถมพอกลับถึงบ้าน

ก็เจอหมายศาลแปะอยู่หน้าประตูว่า

บ้านกำลังจะถูกยึด

ต่อมา ตอนติน่าเรียนอยู่มหาลัยปี 2

พ่อของติน่าก็จากไป

และทิ้งหนี้สินเอาไว้ก้อนโต

ทำให้ติน่าต้องขายรถ บ้าน

และธุรกิจของพ่อมาใช้หนี้

พอติน่าเรียนจบ เริ่มมาทำธุรกิจเอง

ก็ติดหนี้อีก เพราะทำแบบไม่รู้ทิศทาง

ซึ่งเรื่องราวแบบนี้ ยังมีอีกเยอะมาก

ถ้ารวมความเสียหายทั้งหมดที่ผ่านมา

ก็น่าจะเป็นหลักหลายล้าน

บทเรียนจากความผิดหวัง

ในช่วงนั้น เกือบทุกวัน

ติน่าได้แต่นั่งตัดพ้อกับตัวเองว่า

“รู้งี้ทำแบบนั้นดีกว่า…” 

แต่ก็รู้ดีว่ามันไม่มีประโยชน์

ชีวิตก็เหมือนการขับรถอยู่บนถนน

บางครั้งเจอฝน เจอโคลน เจอหลุม

บางอย่างรุนแรงจนทำให้เราหมดแรง

เกิดอุบัติเหตุ หรือถึงตายได้

แม้วันนี้ ติน่าจะมีความมั่นคงทางการเงินแล้ว

แต่ในธุรกิจ ทุกวันก็ยังมีเรื่อง

ที่ทำให้หงุดหงิดอยู่เสมอ

ซึ่งทางแก้ที่ดีที่สุด

น่าจะเป็นการอยู่บ้านเฉย ๆ

ไม่ต้องออกไปไหน ไม่ต้องทำอะไร

แต่มันก็เป็นไปไม่ได้

สิ่งเดียวที่เราทำได้ คือ

“เลือก” ว่าจะโต้ตอบกับมันยังไง

เลือก “ข้าวให้เกี่ยว”

ติน่าเพิ่งได้คุยกับเพื่อนคนหนึ่ง

ที่มานั่งระบายปัญหากับติน่า

บอกว่าเรื่องนี้ จะทำให้ติน่าผิดหวังแน่ ๆ

ซึ่งพอติน่าได้ฟังแล้ว…​ ก็ผิดหวังจริง ๆ

แต่สิ่งที่ติน่าตอบกลับไปคือ

“ติน่ามีอะไรต้องทำเยอะแยะเลย

ขอตัวก่อนนะ”

นี่คือวิธีรับมือของติน่า

เอาพลังไปทำให้ตัวเองยุ่งกับเรื่องอื่น

แทนที่จะจมอยู่กับความผิดหวัง

เหมือนชาวนาที่เพิ่งเสียภรรยาไป

เช้าวันรุ่งขึ้น

เขาก็ยังต้องออกไปเกี่ยวข้าวอยู่ดี

ซึ่งฟังดูอาจโหดร้าย

แต่จริง ๆ มันคือสิ่งที่ช่วยพยุงชีวิตเขา

เพราะปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของหลายคนคือ

พวกเขา “ไม่มีข้าวให้เกี่ยว”

เลยปล่อยให้ความผิดหวังดูดพลัง

จนแทบไม่มีแรงเดินหน้าต่อ

ความลับของคนที่ล้มแล้วลุกเร็ว

คนที่มีเป้าหมายชัดเจน

มุ่งมั่นทำให้มันเป็นรูปเป็นร่าง

จะตั้ง deadline ให้ตัวเองเสมอ

เขาจะ “ยุ่ง” เกินกว่าที่ความผิดหวัง

จะเกาะอยู่ได้นาน

เหมือนตลกที่เล่นมุขแล้วแป้ก

เขาไม่มีเวลามานั่งผิดหวัง

สิ่งเดียวที่เขาทำได้ คือ

เล่นมุขต่อไปทันที

ในทางตรงกันข้าม

คนที่ไม่มีเป้าหมาย มักจะมีเวลาเหลือ

ให้กับสิ่งไม่ดีอยู่กับเขาตลอดเวลา

และที่น่าสนใจก็คือ…

คนส่วนใหญ่ที่ไม่สำเร็จในธุรกิจออนไลน์

ไม่ใช่เพราะเขา “ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง”

แต่เพราะเขา รู้แล้ว… แต่ไม่ลงมือทำ

อาจจะเป็นความกลัว ความไม่มั่นใจ

หรือความกังวลบางอย่าง

ที่ดึงคนเหล่านี้ไว้ไม่ให้ก้าวต่อ

แต่ไม่ว่าข้ออ้างจะเป็นอะไร

ถ้าไม่ลงมือทำจริง ๆ

ก็จะไม่มีวันได้ “เกี่ยวข้าว”

ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการนั่งจม

อยู่กับความผิดหวังเลย

เราสามารถเลือกได้ว่า

จะปล่อยให้ความผิดหวังทำให้เราล้ม

หรือใช้มันเป็นแรงผลักให้ตัวเองแข็งแกร่ง

คำพูดที่เตือนใจ

JFK อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เคยกล่าวไว้ว่า

“I had no choice. My boat sank.” 

เรือของผมจมไปแล้ว ผมไม่มีทางเลือกอื่น

(นอกจากต้องเดินหน้าต่อไป)

แล้วคุณล่ะ…

คุณมี “ข้าวให้เกี่ยว” มากพอรึยัง?

คุณจะทำยังไง…ให้ล้มแล้วลุกเร็วกว่าเดิม?

นี่คือความลับที่ติน่าใช้มาตลอด

และอยากฝากไว้เป็นกำลังใจให้คุณ

เวลาที่ต้องเจอวันที่ยาก ๆ นะคะ

รัก

ติน่าเอง