top of page
ค้นหา

ถ้าเขาไม่ซื้อ “ตอนนี้” ก็อาจจะไม่มีวันซื้อเลย

เจ้าของกิจการส่วนใหญ่

ไม่รู้ว่าต้อง "สร้างความเร่งด่วน"

ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ

แต่คำว่า “สร้างความเร่งด่วน” 

คำสำคัญไม่ใช่คำว่า “เร่งด่วน” 

แต่มันคือคำว่า “สร้าง”

ติน่าไม่ได้พูดถึงการทำให้คนตื่นตัว

แบบที่คนพากันตื่นตระหนก 

ตอนแผ่นดินไหวนะ 


แต่ติน่ากำลังพูดถึง 

ความเร่งด่วนที่ออกแบบ

มาอย่างมี”กลยุทธ์” 


ความตื่นตัวที่ถูกวางแผนมา

เพื่อให้ลูกค้าทักไลน์

แล้วเข้าแอปโอนเงิน ตอนนี้


ถ้าคุณยังคิดว่าการโน้มน้าวลูกค้า 

คือการโชว์คุณสมบัติ คุณภาพ

และประโยชน์ของสินค้าให้ครบ 


คุณกำลังแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

การขายเกิดขึ้นตรงจุดที่ 

“อารมณ์” กับ “จังหวะเวลา”

มาบรรจบกัน

แต่คนส่วนใหญ่? 

ขับรถผ่านแยกนั้นไป

โดยไม่แม้แต่จะชะลอ


ติน่าเขียนโพสท์ขาย 

สคริปท์ปิดการขาย  

ทั้งแบบไลฟ์และคลิปขาย

มามากพอที่จะรู้ว่า

“เกือบจะปิดการขายได้” 

แปลว่า “ปิดการขายไม่ได้แน่ๆ”

คนที่ “เกือบซื้อ” 

มีเยอะกว่าคนที่ “ซื้อจริง” เยอะ

และถ้าคุณไม่สร้างความเร่งด่วน 

ไม่ผลัก ไม่ดัน ไม่กระตุ้น 

ไม่ปลุกให้เขาตัดสินใจ ตอนนี้เลย

คุณกำลังทิ้งเงินก้อนโตไว้โดยไม่รู้ตัว


Zig Ziglar นักการตลาด

ชาวอเมริกันในตำนาน

เคยกล่าวเอาไว้ว่า 

คนขายมี 2 แบบ

คือ “มือปิดยอด” 

กับ “มือสะสมคำปฏิสเสธลูกค้า”


มีคนจำนวนมาก

ที่ขายของเพื่อสะสมคำว่า 

“ขอคิดดูก่อน”

อย่างกับสะสมตุ๊กตาลาบูบู้


ซึ่งคุณรู้ไหมว่าคำว่า 

“ขอคิดดูก่อน” เอาไปซื้ออะไรได้?

เอาไปซื้อข้าวให้คู่แข่งคุณกิน

ค่าเช่าออฟฟิศให้เจ้าอื่น 

หรือไม่ก็ชาบูหนึ่งมื้อ

แต่ซื้ออะไรให้คุณไม่ได้เลย

 

ติน่าไม่ได้สนใจว่า

จะมีคนชอบหรือไม่ชอบติน่า

แต่ติน่าสนใจว่า

เงินเข้าบัญชีหรือยัง


ถ้าเงินเข้าแล้ว 

คือ “สำเร็จแล้ว” 

ไม่ใช่ “ขอคิดดูก่อน” 

ไม่ใช่ “เดี๋ยวเอาไว้ก่อน”

คุณเอา “ความพยายาม” 

ไปฝากธนาคารไม่ได้


ติน่าเห็นมาตลอด

เกือบ 10 ปีที่ทำออนไลน์

ทันทีที่คุณเอาความเร่งด่วน

ออกจากโพสท์ขาย

หรือการปิดการขาย 

ยอดขายจะตายลงอย่างช้า ๆ


คน “เกือบจะทัก”

คน “เกือบจะโทร”

คน “เกือบจะโอนเงินเข้ามา” 

แต่แล้วหมาเห่า ลูกร้อง 

หรือข่าวโตโน่เด้งขึ้นมา 

โมเมนต์นั้นก็หายวับไป


โมเมนต์นั้นแหละ คือ เงิน

คือ ค่าโฆษณาที่ถูกทิ้งลงชักโครก

คือ ลูกค้าใหม่ที่อีก 3 วัน

จะไปซื้อจากคนที่ 

พูดโน้มน้าวได้ดีกว่า 

กล้าขายมากกว่า


คุณต้องรู้วิธีเจาะทะลุ 

“โซนเกือบซื้อ” ให้ได้

และนั่นหมายถึง

การสร้างความเร่งด่วน

ซึ่งไม่ใช่แบบกว้างๆ ทั่วไป 

แต่เป็นความเร่งด่วนที่ 

ถูกออกแบบมา

ฝังอยู่ในทุกจุดของการขายของคุณ


ตั้งแต่พาดหัว ไปจนถึง 

การเขียน Call To Action ให้ลูกค้าสั่งซื้อ 

ไปจนถึงวันหมดอายุของ Offer


และอย่าเข้าใจผิดกับคำว่า “สร้าง”

ติน่าหมายถึง สร้างมันขึ้นมาจริง ๆ

แม้จะไม่มีเหตุผลอะไร

นอกจากมัน จำเป็นต่อผลกำไรของคุณ


ติน่าไม่สนหรอกว่า

รูปสินค้าคุณจะสวยแค่ไหน 

หรือวิดีโอจะตัดต่อดีขนาดไหน

ถ้าไม่มีคนโอนเงินเข้ามา  

การตลาดนั้นก็ไม่เวิร์ค


สิ่งที่สำคัญจริงๆ มีแค่นี้

ต้นทุนที่จะได้สูงสุด

จากลูกค้า 1 คน


สมมติคุณมี funnel 

ที่คุ้มทุนเมื่อได้ลูกค้า 10 คน

จากทุก 1,000 คนที่กดเข้ามา

ซึ่งมันดีมากเลย

แต่ลองนึกภาพดูสิว่า

ถ้าคุณเพิ่มได้อีกแค่ 1 คน 

เป็น 11 จาก 1,000 คน 

มันจะเกิดอะไรขึ้น?


งบโฆษณาต่อหัวของคุณจะลดลง

คนจดจำคุณในตลาดได้มากกว่า

และขยายธุรกิจได้แบบเต็มที่

โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสินค้า

ไม่ต้องเพิ่มงบโฆษณา

คุณแค่เปลี่ยน “คนเกือบซื้อ” 

ให้กลายเป็น “ลูกค้าจริง”

แค่นั้นเอง


ดีลที่ปิดการขายได้เพิ่มขึ้น

เพียงแค่ 1 ดีล

ก็คือ กำไรล้วน ๆ

เพราะต้นทุนอื่น ๆ 

Fixed Cost ต่าง ๆ

คุณจ่ายไปหมดแล้ว


การปรับเพียงแค่ 5%

สามารถแยกระหว่าง 

“ธุรกิจที่รันเล่นๆ” 

กับ “ธุรกิจตัวจริง” 

ออกจากกันได้เลย


ตอนติน่าปิดการขายผ่านไลฟ์

ถ้าเปิดกล้องผ่าน Zoom

ติน่ากวาดตา แล้วเดาได้เลยว่า

จะมีคนซื้อกี่คน

และวิธีที่จะเพิ่มจำนวนนั้น 

ไม่ใช่การเพิ่มมุกตลก 

ไม่ใช่การทำไลฟ์ให้สวยขึ้น

มันคือการสร้าง ความเร่งด่วน


ทำให้ Offer มีวันหมดเขต

ใส่โบนัสแบบจำกัดจำนวน

สร้างความขาด 

(ถ้าไม่ทำตอนนี้ ไม่มีอีกแล้ว)

และที่สำคัญที่สุด

เน้นย้ำ ผลลัพธ์ของการไม่ลงมือทำ


ติน่าเคยเห็นนักการตลาดบางคน 

ที่เพิ่มกำไรขึ้นเป็นสองเท่า 

ไม่ใช่จากการปรับสินค้าหรือบริการ

แต่เพียงเพราะ ใส่ความเร่งด่วนให้มากขึ้น

ตอนที่ลูกค้าต้องตัดสินใจ


คนส่วนใหญ่ที่เคยทักคุณมาแล้วหายไป

จะไม่กลับมาอีก

นี่ไม่ใช่การมองโลกในแง่ร้าย 

มันคือข้อเท็จจริง


คุณไม่ได้กำลังเก็บรายชื่อลูกค้า

หรือคนติดตาม

แต่คุณกำลังสร้าง “สุสานของคนสนใจ” 

ที่หายไปจากชีวิตคุณตลอดกาล


เลิกหวังว่าเขาจะกลับมา

ปิดการขายตอนนี้เลย

ไม่งั้นคุณต้องจ่าย

ความเสียหายนี้ในภายหลัง

(กำไร/ยอดขายที่หายไป)


ถ้าคุณอยากแก้ปัญหานี้ 

และติดตั้งระบบการตลาด

ที่ “กระตุ้น” ให้คนลงมือทำจริง ๆ

เปลี่ยน “คนเกือบซื้อ” 

ให้กลายเป็น “ลูกค้าตัวจริง”

รีบคว้ามันไว้ ก่อนที่เวลาจะผ่านไปอีก 1 นาที


ติน่ามีหนังสือเซ็ตคู่ที่อยากส่งให้คุณตอนนี้

มันคือชุดเครื่องมือการตลาดออนไลน์

(Online Marketing Starter Kit)

ที่ครอบคลุมเนื้อหาที่ละเอียดที่สุด

เท่าที่ติน่าเคยทำมา


โดยเฉพาะสำหรับคนที่

ยังไม่คิดว่าตัวเองเป็นนักการตลาดเลยด้วยซ้ำ

นี่ไม่ใช่แค่หนังสืออีกเล่ม แต่มันคือคลังแสง

สำหรับคนที่เหนื่อยกับคำว่า “เดี๋ยวก่อน”

และอยากเปลี่ยน “ความลังเล” ให้กลายเป็น “ซื้อเลย”


เซ็ตคู่ Online Marketing Starter Kit

1) หนังสือ Smart Marketing | สูตรสำเร็จขายดีออนไลน์ ด้วยการตลาดอัจฉริยะ

2) หนังสือ วิธีที่ "คุณ" สามารถสร้างเงิน "วันละแสน" จากที่บ้านได้ โดยไม่ต้องออกแรง



ในเซ็ตหนังสือนี้ คุณจะได้เรียนรู้

  • 7 สาเหตุที่ทำให้การตลาดของคุณล้มเหลว และทำยังไงให้พลิกมาสำเร็จได้

  • 8 กฎเหล็กการตลาดที่ห้ามแหก - หลักการที่จะทำให้คุณมีลูกค้าไหลเข้ามาตลอด

  • สิ่งที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ ที่ไม่ใช่แค่สินค้าคุณภาพดี (มันลึกซึ้งกว่านั้นเยอะ)




แถมฟรี! มินิคอร์สออนไลน์สำหรับมือใหม่หัดทำออนไลน์

  • มินิคอร์สสูตรลับขายออนไลน์ หาลูกค้าใหม่ได้ไม่รู้จบ มูลค่า 9,900 บาท

  • มินิคอร์สทำคอนเทนท์เป็น เห็นเงินล้าน เพิ่มคนติดตาม มูลค่า 1,099 บาท

  • มินิคอร์สหาตัวเองให้พบ แล้วจบที่เงินล้าน มูลค่า 1,099 บาท

  • มินิคอร์สสูตรลับทำคลิป 1,000,000 วิว มูลค่า 1,099 บาท


ทั้งหมดนี้ จากราคาเต็ม 19,447 บาท เหลือเพียง 1,750 บาทเท่านั้น

หรืออ่านหนังสือทั้งหมดแบบ Ebook ในราคา 1,550 บาท


นี่คือเซ็ทหนังสือการตลาด

ที่กระตุ้นการลงมือทำจริงๆ


แต่อย่ามัวแต่รอ

เพราะคำว่า “ไว้ทีหลัง” ไม่ได้สร้างธุรกิจ

คำว่า “เดี๋ยวเอาไว้ก่อน” ไม่ช่วยให้เงินเข้ากระเป๋า

คำว่า “ขอรอดูก่อน” ไม่ทำให้ธุรกิจคุณโต


ด้วยรักและความตั้งใจที่อยากให้คุณเพิ่มรายได้อย่างจริงจัง


ติน่าเอง

 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
สิ่งที่ติน่าจะบอกต่อไปนี้ อาจทำให้คุณโกรธ...

เพราะมันจะขัดแย้งกับสิ่งที่คุณถูกสอนมาโดยตลอด จากผู้รู้หรือกูรูคนอื่น  ที่น่าแปลกใจคือ เจ้าของกิจการหลายคน อยากจะเชื่อสุดหัวใจว่ามันคือคว...

 
 
bottom of page